บทที่ 5 เจ้าชายมัจจุราช Vs นางซินผู้ต้อยต่ำ (130%)

ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต

“นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง

“ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด

จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ก็ขอให้เป็นหลังจากนี้…หากมีอีกครั้งวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน จะไม่ใช่เจ้าชายในฝันของเธออีกต่อไป ตรงกันข้ามเขาจะกลายเป็นเจ้าชายมัจจุราชที่เธอควรจะหลีกลี้หนีให้ไกล

“เดี๋ยวก่อน…เธอเป็นใคร” เสียงห้าวกระด้างโพล่งขึ้นทันควัน อภิมหาเศรษฐีหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากรู้จักยัยเด็กเนื้อตัวสกปรกอย่างเธอด้วย ทั้งที่เมื่อกี้รู้สึกเดือดดาลจนแทบจะกระโจนเข้าขย้ำอีกฝ่าย

“อย่าสนใจคนอย่างฉันเลยค่ะ ขอตัวนะคะ” ขาดคำนางซินก้นครัวก็เดินลิ่วจากไป โดยไม่แยแสว่าจอมยโสจะอนุญาตหรือไม่

วูล์ฟเอื้อมมือออกไป หมายจะกระชากร่างอ้อนแอ้นมาสั่งสอนว่าอย่ามาทำอวดดีกับเขา แต่แล้วก็ต้องชักมือกลับมากำเป็นหมัดแนบลำตัวด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น พ่อเจ้าประคุณเย่อหยิ่งเกินกว่าที่จะแตะต้องเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกของอีกฝ่าย

“บ้าเอ๊ย!” เขาสบถลั่นด้วยความหงุดหงิดหัวเสียเต็มอัตรา เพราะไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเดินหนีคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน แบบนี้มาก่อน ให้ตายห่าสิวะ! แม่นั่นเป็นใครกันถึงบังอาจทำเมินใส่เขา

บุรุษเลือดร้อนกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะหมุนกายเดินกลับเข้าไปภายในบ้านพอร์ตแมนอีกครา

ครั้นเจ้าของร่างทรงพลังก้าวขาเข้ามาภายในห้องรับแขกของบ้านว่าที่เจ้าสาว เขาก็มีโอกาสได้พบเจ้าของบ้าน ทั้งที่ในตอนแรกแม่บ้านบอกว่าคนทั้งคู่ไม่อยู่ และคนฉลาดเป็นกรดอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ก็เดาได้ไม่ยากว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่

“คุณอาทั้งสองจะไปไหนครับ” น้ำเสียงทรงอำนาจทว่าเจือไว้ซึ่งความสุภาพที่ดังขึ้นทำให้คนที่ถูกเอ่ยถามต่างสะดุ้งเฮือก กระเป๋าเสื้อผ้าที่พากันหอบหิ้วออกมาเพื่อจะหลบหนีไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวหลุ่นตุ้บไปกองอยู่แทบเท้า ก่อนที่ทั้งคู่จะเงยใบหน้าซีดเผือดขึ้นมองผู้มาใหม่ด้วยท่าทางขลาดกลัว

“เอ่อ…” นายโรเบิร์ตและนางเดือนแข พอร์ตแมน ต่างออกอาการอ้ำๆ อึ้งๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลนของสองผัวเมียทำให้ใบหน้าคร้ามคมพลันกระด้างขึ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินอมเทาหรี่จนแคบลงเพื่อจับพิรุธ

“ระ…เราสองคนจะออกไปทำธุระข้างนอกจ้ะ” ในที่สุดนางเดือนแขก็ควานหาเสียงของตัวเองเจอ

“แล้วเบลล่าล่ะครับ”

“เอ่อ…” เจ้าบ้านต่างทำท่าอึกอัก พร้อมสะกิดให้อีกฝ่ายเป็นคนเปิดปาก ทว่าคนเป็นสามีทำเพียงส่ายศีรษะหวือและหน้าซีดปากสั่นราวกับเจ้าเข้า

“ผมถามว่าเบลล่าไปไหน!” ที่สุดวูล์ฟก็ตะคอกอย่างไร้ความอดทน

“เอ่อ…บะ…เบลล่าหนีไปแล้ว” เมื่อโดนคาดคั้นหนักเข้าโรเบิร์ตก็รีบละล่ำละลักเสียงสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กไม่ต่างจากผู้เป็นภรรยา

“หนีไปแล้ว! หนีไปยังไง! และหนีไปกับใคร!” น้ำเสียงกราดเกรี้ยวซักไซ้ทันควัน

“เบลล่าหนีไปกับคนรักของเธอ เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักคุณ” กล่าวจบประมุขของตระกูลพอร์ตแมนก็ก้มลงหลบสายตาอำมหิตที่กราดมาอย่างเอาเรื่อง

“บัดซบ! ผู้หญิงระยำ! ไม่รักดี!” วูล์ฟเค้นเสียงขุ่นคลั่กสบถลั่นด้วยความเดือดดาลระคนคั่งแค้นสุดฤทธิ์ กรามกระด้างขบกันแน่นจนเป็นสันนูน บุรุษจอมโอหังเกลียดการเสียหน้าอย่างเข้าไส้ และเกลียดการทรยศหักหลังยิ่งกว่าอะไรดี ฉะนั้นการแต่งงานที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพจะต้องไม่ล่ม และหากงานแต่งเฮงซวยจะล่มจริงๆ มันจะต้องมีคนรับผิดชอบอย่างสาสม!

“พวกคุณจะรับผิดชอบยังไงกับการหายตัวไปของเจ้าสาวของผม” สรรพนามที่เคยเรียกสองผัวเมียอย่างสนิทสนมพลันแปรเปลี่ยนเป็นเหินห่างและเย็นชาทันควัน

“เอ่อ…” ผู้ที่โดนไล่บี้ต่างพากันพูดไม่ออก

“อมขี้ฟันอยู่หรือไงห๊ะ! ผมถามทำไมไม่ตอบ!” อภิมหาเศรษฐีจอมโอหังเริ่มออกอาการคลุ้มคลั่งประหนึ่งพญามัจจุราชที่หลุดออกมาจากขุมอเวจี

“เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนก็แล้วกันค่ะ”

“มะลิไหนไม่ทราบ!”

“นี่ไงคะ” ทันใดนั้นนางเดือนแขก็ดึงเอาคนที่เพิ่งยกน้ำมาเสิร์ฟเข้ามาเกี่ยว มะลิร้อยทำท่าตกใจสุดขีด ก่อนจะส่ายหน้า พร้อมเอ่ยวิงวอนเสียงสั่น

“คุณป้า ไม่นะคะ ได้โปรด…”

“หุบปากของแกซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ป้าใจร้ายกดเสียงต่ำข่มขู่ ก่อนจะปั้นสีหน้าแช่มชื่น แล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเหมือนภูมิใจนำเสนอหลานสาวในไส้ที่นางไม่เคยดูดำดูดีเสียเต็มประดา “นี่ไงคะคุณวูล์ฟ นังมะลิ”

ขาดคำนางเดือนแขก็จับไหล่บอบบางทั้งสองข้างของมะลิร้อย ซึ่งกำลังส่งสายตาอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา แล้วดันร่างแน่งน้อยไปตรงหน้าชายหนุ่ม

บุรุษจอมเย่อหยิ่งตวัดตาคมกริบมายังผู้ที่ถูกกล่าวถึงทันควัน วินาทีถัดมาวูล์ฟก็ต้องย่นหว่างคิ้วหนาทว่าได้รูปเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนทำท่าเจี๊ยมเจี้ยมอยู่ตรงหน้า คือแม่สาวน้อยเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรก ที่เขาเพิ่งจะกระโจนเข้าลวนลามและเกือบจะปลุกปล้ำประหนึ่งไอ้โรคจิตบ้ากาม ถึงแม้จะเห็นแค่ทางเบื้องหลัง แต่เขาก็ยังจดจำรูปร่างและลักษณะการแต่งกายของอีกฝ่ายได้ติดตา

ส่วนคนที่โดนจ้องเขม็งนั้นรู้สึกเหมือนถูกสูบลมหายใจออกไปจากร่าง แทนที่จะปริปากประท้วงการกระทำของผู้เป็นป้าอีกครา ทว่าเมื่อได้สานสบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินอมเทาหญิงสาวกลับพูดไม่ออก ทั้งขัดเขิน อับอาย หวาดหวั่น และประหม่าระคนกัน ถึงแม้จะเพิ่งเจอวูล์ฟไปหยกๆ แถมยังเผลอไปต่อปากต่อคำกับเขาอย่างใจกล้า แต่นั่นมันก็แค่เวลาที่เธอหันหลังให้เขา และในยามที่ได้เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายจังๆ แบบนี้มะลิร้อยแสนจะขี้ขลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อีกทั้งไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง จึงได้แต่ยืนทำตัวลีบ ก้มหน้างุด และกุมมือชื้นเหงื่อเข้าหากันแน่น

เจ้าของร่างทระนงองอาจจงใจขยับเข้าใกล้นางซินตัวน้อยด้วยท่วงท่าสง่างาม หากแต่แฝงความคุกคามเต็มอัตรา จากนั้นก็เดินวนรอบร่างอ้อนแอ้นอย่างช้าๆ ทำให้แม่สาวอ่อนเดียงสาต้องเผลอกลั้นใจ ดวงตาคมกริบประหนึ่งใบมีดโกนจ้องเด็กสาวเขม็ง บ้างกวาดขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับประเมินสินค้าอย่างไม่เกรงใจ ขณะที่ยกมือกระด้างขึ้นลูบปลายคางแกร่งไม่ขาดระยะ วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้านางซินก้นครัวชัดๆ เขาก็นึกรังเกียจขยะแขยงยัยเด็กมอมแมม แต่งตัวมอซอ ร่างผอมแห้งเหมือนขาดสารอาหาร ใบหน้าเลอะไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำมัน เนื้อตัวคละคลุ้งเหม็นคาวไปด้วยกลิ่นอาหารจนน่าสะอิดสะเอียน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป